ประวัติ ของ ขุนศึก ศิษย์เกรียงไกร

ขุนศึก มีชื่อจริงคือ อุเทน คำภักดี เริ่มฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุ 10 ขวบ โดยมีบิดาของเขาเป็นครูมวยคนแรก และใช้ชื่อชก สิงห์ร้าย ลูกป่าขนุน ในการแข่งครั้งแรก โดยได้รับค่าตัวไฟต์ดังกล่าวที่ 60 บาท[1]

จากนั้น บิดาของเขาได้พาแข่งในแถบหมู่บ้านและอำเภอใกล้เคียง กระทั่งครูศรพิษณุ ศิษย์ ป.ต.ท. เกิดความชื่นชอบในผลงานอย่างมาก จึงพาไปแข่งขันแถบจังหวัดอุตรดิตถ์และภาคเหนือตอนล่าง[1]

ครั้นแล้วจึงพาไปฝากตัวกับบุญเลิศ โพธิ์ศรี ที่จังหวัดพิษณุโลก แล้วเปลี่ยนชื่อชกใหม่เป็น ขุนพลน้อย ส.มรกต โดยแข่งในระดับภูธรอีกประมาณ 30 ไฟต์ ก่อนเข้าแข่งขันรายการศึกวันทรงชัยที่กรุงเทพมหานคร[1]

เขาได้ปะทะกับนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงระดับแถวหน้า อาทิ เหนือชั้น ส.สมศักดิ์ชัย, เพชร ป.บูรพา และรัตนชัย ว.วลาพล แล้วได้แข่งออกรายการถ่ายทอดทางช่อง 9 จากการสนับสนุนของทองอยู่ ภิรมย์ทัพ โดยใช้ชื่อชก ขุนศึก สวนอาหารอิ่ม[1]

ครั้นแล้ว เขาก็ได้รับการสนับสนุนจากเอ พัทยา ผู้ทำค่ายศิษย์เกรียงไกร แล้วได้เข้าแข่งขันรายการศึกมวยไทย 7 สี และศึกเกียรติเพชร ที่โดยโปรโมเตอร์ ชุ้น เกียรติเพชร[1]

ด้วยผลงานที่สร้างความประทับใจต่อแฟนมวย ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลคู่มวยดุเดือดประจำสัปดาห์ของศึกมวยไทย 7 สี อยู่บ่อยครั้ง โดยไฟต์ที่สร้างผลงาน อาทิ เมื่อครั้งที่ปะทะกับชาติสมัย ส.คณิตศร, น้ำเพชร ศิษย์โอ, หน้าสวน ศศิประภายิม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิชัย กิยารัตน์ ที่ปะทะกับขุนศึกถึง 7 ครั้ง[1]

ขุนศึก ศิษย์เกรียงไกร เคยได้รับค่าตัวสูงสุดในรายการศึกมวยไทย 7 สี เมื่อครั้งปะทะกับงาเทา อรรถรุ่งโรจน์ ที่ 50,000 บาท และได้รับค่าตัวสูงสุดในการแข่งที่สนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อครั้งปะทะกับปิ่นสยาม ส.อำนวยศิริโชค ที่ 75,000 บาท[1]

พ.ศ. 2550 ขุนศึกได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันศึกอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล วีจีเอสเทอร์โบ ของสายเอ ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อย[2]